Tuesday, March 10, 2015

Elephant Mahout Training Course

Elephant Mahout Training Course

Visit daily life of local people and Thai elephant and you will get close up to baby elephant Chiangmai that will impress you with this trip for sure

Baby elephant Chiangmai
Our elephant tour is unique, we will get you very very close to baby elephant Chiangmai. This trip are conserve nature and elephant we will do no harm to elephant. You will fulfill and enjoy with nature elephant and nice environment of Chiangmai. Join us and you will be welcome with baby elephant Chiangmai.
Baby elephant Chiangmai

Baby elephant chiangmai แสนน่ารัก ที่พร้อมยินดีต้อนรับ นักท่องเที่ยวเช่นคุณ วันนี้กับทัวร์ช้างแสนพิเศษที่รับรองว่าคุณต้องประทับใจอย่างแน่นอน ทริปท่องเที่ยวทัวร์ช้างสุดพิเศษ เที่ยวชมชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านและช้างไทยตามสไตล์แบบธรรมชาติ คุณจะได้เจอกับ Baby elephant chiangmai ที่จะทำให้คุณประทับใจกับการมาทริปครั้งนี้อย่างแน่นอน

Elephant Chiangmai การท่องเที่ยวแบบดูการแสดงของช้างต่าง ๆ หลายที่จะมีให้เห็นแบบทั่วไป หากท่านต้องการความแปลกใหม่ของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และใกล้ชิดกับสัตว์ป่าที่มีรูปร่างขนาดใหญ่ หรือที่ทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขนานนามให้ว่าเป็นเจ้าแห่งพงไพร ที่ตัวใหญ่ดุดัน การท่องงเที่ยวที่เราจะพาทุกท่านไป Elephant Riding, Elephant Training , Elephant Chiangmai นั่น จะเป็นทริปที่ทุกท่าน ที่รักและชื่นชอบในการท่องเที่ยวและอนุรักษ์ช้างนั้น ต้องมีความหลงใหลและชื่นชอบอย่างแน่นอน เพราะท่านจะได้สัมผัสและชื่นชอบช้างไทย อย่างใกล้ชิด รับรองว่าทริปนี้ท่านจะได้ความสนุกและเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ไม่ได้ส่งเสริมให้มีการทำร้ายช้างแต่อย่างใด โดยท่านที่ต้องการท่องเที่ยวทริปนี้ไปกับเราท่านสามารถเลือก Package การท่องเที่ยวทริปนี้ได้จากใน เว็บไซต์ของเรา www.rakchangelephanttraining.com และเราขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความร่วมมือและร่วมท่องเที่ยวทริปนี้ไปกับเรา กับ Elephant Chiangmai และ Rak Chang Elephant training.com baby elephant trainingelephant chiangmaiElephant Training Tripelephant chiangmai travelbaby elephant chiangmai

Rak Chang Elephant training ทัวร์รักช้าง เราจะให้ท่านได้พบกับ การท่องเที่ยวที่เน้นการอนุรักษ์ช้างและ ได้เห็นวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนกับช้างแบบธรรมชาติ อย่างใกล้ชิด ท่านจะได้เห็น การฝึกช้างเชิงสร้างสรรค์ Elephant training ที่ได้รับการฝึกฝนด้วยการดูแลและใส่ใจด้วยความรัก ไม่มีการทรมานช้างและทำลายธรรมชาติแต่อย่างใด Elephant Chiangmai พบวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ ของช้าง ที่คุณจะรื่นเริงและสนุกไปกับ ทริปอันแสนสนุก ที่เราจะมุ่งเน้นและให้ความสำคัญเกี่ยวกับช้าง Elephant Chiangmai การท่องเที่ยวแบบดูการแสดงของช้างต่าง ๆ หลายที่จะมีให้เห็นแบบทั่วไป หากท่านต้องการความแปลกใหม่ของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และใกล้ชิดกับสัตว์ป่าที่มีรูปร่างขนาดใหญ่ หรือที่ทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขนานนามให้ว่าเป็นเจ้าแห่งพงไพร ที่ตัวใหญ่ดุดัน ท่าจะได้สัมผัสกับการใช้ชีวิตแบบชาวบ้าน วิถีชีวิตแบบโบราณที่ใช้ชีวิตกับสัวต์ขนาดใหญ่ การอยู่ร่วมกันแบบเชิงอนุรักษ์อาศัพพึ่งพากันและกัน การท่องเที่ยวที่เราจะพาทุกท่านไป Elephant Training , Elephant Chiangmai นั่นเรารับรองว่า ทริปการท่องเที่ยวของท่านครั้งนี้จะต้องประทับใจ และรู้สึกได้ถึงการท่องเที่ยวอีกแบบหนึ่งที่ท่านไม่เคยพบที่ไหนมาก่อน หากคุณต้องการและสนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้
Elephant Training

CONTACT US
Banchang Elephant Home Tour
Address : 27 SanambinkaoSuthepMuangChiangmai 50200
Tel : 053-272087 ,091-0766254 ,086-9126463
E-mail : rakchang27@gmail.com

Tuesday, February 17, 2015

ท่องเที่ยวยอดฮิตปี 2015 เที่ยวเชียงใหม่

ที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ สัมผัสบรรยากาศกลิ่นอายประเพณีและวัฒนธรรม ของกินเชียงใหม่ ของกินล้านนา คนพื้นบ้าน สถานที่โบราณ เมืองเก่า ประวัติศาสตร์ของนพบุรีศรีนครพิงค์ เมืองเชียงใหม่ สามารถมาสัมผัสกันได้เลย



ที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่



ถ้าหากสนใจอยากที่จะสัมผัสกับชีวิตยามค่ำคืนที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ สำหรับกิจกรรมยามค่ำคืนก็ถือว่ามีสถานที่อีกมากมายหลายสถานที่ ที่พร้อมจะให้คุณมาสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ อาหารการกินแบบพื้นบ้านของคนเหนือล้านนา สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับกลางคืนสำหรับผู้ที่ต้องการหาของประดับตกแต่ง เครื่องแต่ง เสื้อผ้าพื้นเมือง อาจจะหาได้ตามถนนคนเดินวันอาทิตย์ถนนท่าแพ ถนนคนเดินวันเสาร์ที่ถนนวัวลาย หรือถ้าอยากสัมผัสบรรยากาศนอกเมืองที่ให้ความเป็นกลิ่นอายของคนเหนือมากขึ้น ก็สามารถเดินทางไปยังถนนคนเดินตามตัวอำเภอใกล้เคียงต่าง ๆ ได้ เช่น ถนนคนเดินอำเภอสันกำแพง หากมาไม่ตรงก็สามารถเดินไปที่กาดหลวงหรือตลาดต้นลำไยนั่นเอง หรือไนท์บาซาร์ได้ ซึ่งสามารถเดินไปได้สะดวกและง่ายมาก ๆ
ที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่

ขุนช่างเคี่ยน จังหวัดเชียงใหม่

ท่องเที่ยวเชียงใหม่

ที่ตั้ง : สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่

ขุนช่างเคี่ยน หรือ สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน เป็นสถานีวิจัยเกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์กาแฟ ไม้ผลเมืองหนาว อยู่ในเส้นทางเดียวกับพระธาตุดอยสุเทพ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ และบ้านม้งดอยปุย จุดเด่นที่น่าสนใจของขุนช่างเคี่ยนคือมีต้นนางพญาเสือโคร่ง หรือที่เรียกกันว่า ซากุระเมืองไทยบานสะพรั่งอยู่ทั่วทั้งพื้นที่จนกลายเป็นดอยสีชมพู ที่คนไทยชอบเที่ยวอย่างเราพลาดไม่ได้ที่จะไปถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก และแน่นอนว่าที่นี่ไม่ได้มีดีแค่ดอกไม้สีชมพู แต่ความเป็นธรรมชาติ ป่าเขา ช่างสวยงาม น่าหนีความวุ่นวายในเมืองไปพักผ่อนมาก

- อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์

 ดอยอินทนนท์ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ อำเภอจอมทอง อำเภอแม่แจ่ม อำเภอแม่วาง และ อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ มีเนื้อที่ประมาณ 482.4 ตารางกิโลเมตร หรือ 301,500 ไร่ ประกอบไปด้วยภูเขาสูงสลับซับซ้อน มีดอยอินทนนท์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย พาดผ่านจากประเทศเนปาล ภูฐาน พม่า เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย
สภาพ ภูมิประเทศทั่วไปประกอบด้วยภูเขาสลับซับซ้อน มีดอยอินทนนท์เป็นยอดเขาที่สูงที่สุด สูงจาก ระดับน้ำทะเล 2,565 เมตร ยอดเขาที่มีระดับสูงรองลงมาคือ ดอยหัวมดหลวง สูงจากระดับน้ำทะเล 2,330 เมตร ป่าอินทนนท์นี้เป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำแม่กลาง แม่ป่าก่อ แม่ปอน แม่หอย แม่ยะ แม่แจ่ม แม่ขาน และเป็นส่วนหนึ่งของต้นน้ำแม่ปิงที่ ให้พลังงานไฟฟ้าที่เขื่อนภูมิพล มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่สวยงาม เช่น น้ำตกต่างๆ โดยเฉพาะน้ำตกแม่ยะ ที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดของประเทศ
ดอยอินทนนท์ เดิมมีชื่อว่า “ดอยหลวงอ่างกา” ต่อมาได้ตั้งชื่อตามพระนามของพระเจ้าอินทวิชยนนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 7

- อุทยานหลวงราชพฤกษ์

อุทยานหลวงราชพฤกษ์ เป็นสวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ ณ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นสถานที่ที่ใช้จัดงาน มหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 และ มหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 เนื่องในมหามงคลสมัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ใน พ.ศ. 2549 และทรงเจริญพระชนพรรษา 80 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2550 และคณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2546 เห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดงานมหกรรมพืชสวนโลก 2549 ณ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ตำบลแม่เหียะ อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ (พื้นที่ 468 ไร่ 3 งาน 10 ตารางวา) โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2550 รวม 92 วันภายใต้ชื่อ “มหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549” ซึ่งเป็นงานที่ประเทศไทยประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

 

จากความสำเร็จของการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 ที่ได้รับการตอบรับทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเป็นอย่างดี คณะรัฐมนตรีจึงมีมติ เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2551 ให้สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) เข้ามาบริหารจัดการและใช้ประโยชน์พื้นที่สวนเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารจัดการและปฏิบัติงานด้านต่างๆ มีภารกิจหลักในการพัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้พืชสวนและเป็นแหล่งท่องเที่ยว ทางการเกษตรและวัฒนธรรมของจังหวัดเชียงใหม่และประเทศไทย โดยได้รับการถ่ายโอนกิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ และงบประมาณของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาเป็นของสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่ สูง (องค์การมหาชน) เมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2552 และมีการส่งมอบสวนเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 ในวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2552 การตั้งชื่ออุทยานหลวงราชพฤกษ์นั้น หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี องค์ประธานมูลนิธิโครงการหลวง ได้มีลายพระหัตถ์ถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อปี พ.ศ. 2552 [1]ขอ พระราชทานชื่อสวนซึ่งเป็นสถานที่จัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 ณ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ว่า “สวนหลวงราชพฤกษ์” ต่อมาท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ รองราชเลขาธิการ ได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อสวนดังกล่าวว่า “อุทยานหลวงราชพฤกษ์” ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2553 และได้รับพระราชทานชื่อภาษาอังกฤษว่า “Royal Park Rajapruek

- วัดพระธาตุดอยคำ

วัดพระธาตุดอยคำ เป็นวัดที่มีความสำคัญในจังหวัดเชียงใหม่ อายุเก่าแก่กว่า 1,300 ปี ตั้งอยู่บริเวณดอยคำ ด้านหลังอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 10 กิโลเมตร วัดพระธาตุดอยคำปัจจุบันมี พระครูสุนทรเจติยารักษ์ (ครูบาพิณ) เป็นเจ้าอาวาส โดยไม่มีพระลูกวัด
พระเจ้าทันใจ แห่งวัดพระธาตุดอยคำ ซึ่งสร้างในรัชสมัยพญากือนา กษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านนา ปัจจุบันมีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ มีประชาชนจำนวนมากได้ไปบนบานและประสบความสำเร็จตามที่ขอพร โดยการแก้บนจะแก้บนด้วยพวงดอกมะลิ โดยในแต่ละวัน จะมีประชาชนขึ้นไปบนบานมากกว่าร้อยคน โดยเฉพาะในวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะมีประชาชนที่ไปบนบานมากกว่าพันคน วัดพระธาตุดอยคำสร้างในรัชสมัยพระนางจามเทวีกษัตริย์แห่งหริภุญชัย โดยพระโอรสทั้ง 2 เป็นผู้สร้างในปี พ.ศ. 1230 ประกอบด้วยเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ศาลาการเปรียญกุฏิสงฆ์ และพระพุทธรูปปูนปั้น เดิมชื่อวัดสุวรรณบรรพต แต่ชาวบ้านเรียกว่า “วัดดอยคำ”

 พ.ศ. 2509 ขณะนั้นวัดดอยคำเป็นวัดร้าง ต่อมากรุแตกชาวบ้านพบโบราณวัตถุหลายชิ้น เช่น พระรอดหลวง พระหินทรายปิดทององค์ใหญ่ พระสามหมอ (เนื้อดิน) ซึ่งนำมาประดิษฐานไว้ ณ วัดพระธาตุดอยคำ พระธาตุดอยคำนอกจากจะเป็นที่สักการบูชาของคนท้องถิ่นแล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์อีกแห่งหนึ่งของการบินไทยที่ใช้กำหนดพื้นที่ทางสายตา ก่อนที่จะนำเครื่องบินลงจอดที่สนามบินเชียงใหม่ เทือกเขาถนนธงชัย ด้านทิศตะวันตกบนเทือกเขาเหล่านั้นจะเป็นที่ประดิษฐานขององค์พระเจดีย์สำคัญ และเก่าแก่ คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ถึง 2 องค์พระเจดีย์ แต่ละแห่งถูกสถาปนาขึ้นโดยพระมหากษัตริย์ในสมัยหริภุญชัยและล้านนาตาม ลำดับ หนึ่งในนั้นคือพระธาตุดอยคำ อยู่บนยอดเขาเล็ก ๆ สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 200 เมตร อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของตัวเมืองเชียงใหม่ เรียกว่า “พระธาตุดอยคำ” เคยเป็นที่อยู่อาศัยของยักษ์สองผัวเมีย ชื่อ จิคำและตาเขียวมาก่อน ซึ่งต่อมาชาวบ้านได้เรียกยักษ์ทั้งสองนี้ว่า “ปู่แสะ – ย่าแสะ” ปู่แสะย่าแสะมีลูก 1 คน ชื่อว่า “สุเทวฤๅษี” เหตุที่ได้ชื่อว่าดอยคำ เนื่องจากศุภนิมิตที่ยักษ์ทั้งสองได้รับพระเกศาธาตุจากพระพุทธเจ้า เกิดฝนตกหนักหลายวัน ทำให้น้ำฝนเซาะและพัดพาแร่ทองคำบนไหล่เขา และลำห้วยไหลลงสู่ปากถ้ำเป็นจำนวนมาก จึงเรียกภูเขาลูกนี้ว่า “ดอยคำ”
จากตำนานหลายฉบับได้กล่าวว่า เทวดาได้นำพระเกศาธาตุที่พระพุทธเจ้าได้ประทานแก่ปู่แสะและย่าแสะ นำขึ้นมาฝังและก่อสถูปไว้บนดอยแห่งนี้ และต่อมาในปี พ.ศ. 1230 เจ้ามหันตยศ และเจ้าอนันตยศ 2 พระโอรสแฝดของพระนางจามเทวี แห่งหริภุญชัยนครได้ขึ้นมาก่อเจดีย์ครอบพระสถูปเกศานั้นไว้ ส่วนพระเจดีย์แห่งที่ 2 ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง ทางทิศเหนือของดอยคำ คือ พระธาตุดอยสุเทพ